ตะแบก
ตะแบก ชื่อวิทยาศาสตร์ Lagerstroemia calyculata Kurz จัดอยู่ในวงศ์ตะแบก (LYTHRACEAE)
วีดีโอแนะนำ
ลักษณะของตะแบก
ต้นตะแบก จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นกึ่งผลัดใบขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีความสูงได้ประมาณ 15-35 เมตร เรือนยอดเป็นรูปเจดีย์ต่ำ ๆ แตกกิ่งก้านสาขาออกรอบต้น เปลือกลำต้นเกลี้ยงเป็นสีเทาอมเหลือง หรือสีน้ำตาลอมเทา มีรอยขรุขระเป็นหลุมตื้น ๆ เกิดจากสะเก็ดแผ่นบาง ๆ ของเปลือกที่หลุดร่วงไป ดูคล้ายกับเปลือกต้นฝรั่ง แต่จะมีจุดด่างขาว ๆ อยู่ตามลำต้น ทางตอนบนของลำต้นจะค่อนข้างเรียบ ส่วนเปลือกชั้นในเป็นสีชมพูอมม่วง ซ้อนกันเป็นชั้น ๆ สลับกับชั้นลายเส้นสีขาว โคนต้นเป็นพูพอนชัดเจน
ใบตะแบก ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกัน บางทีออกเรียงเกือบตรงข้าม ลักษณะของใบเป็นรูปไข่หรือรูปขอบขนานแกมรูปหอก เห็นตาง่ามชัดเจน ใบมีขนาดเล็กกว่าใบอินทนิลน้ำ แผ่นใบเป็นสีเขียว หลังใบเกลี้ยงหรือเกือบเกลี้ยง ส่วนท้องใบมีขนสีน้ำตาลสาก ๆ ขึ้นหนาแน่น ตะแบกเป็นไม้กึ่งผลัดใบ ซึ่งจะผลัดใบหรือไม่ผลัดใบก็ได้ แต่ถ้าผลัดใบก็จะผลัดใบในช่วงประมาณเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม และจะแตกใบใหม่ในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม
ดอกตะแบก ออกดอกเป็นช่อแบบเป็นกลุ่มย่อย ออกเป็นช่อโต ๆ ตามปลายกิ่ง ตามส่วนต่าง ๆ จะมีขนสาก ๆ ขึ้นทั่วไป ดอกจะมีขนาดเล็ก เมื่อบานเต็มที่จะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.5-1.5 เซนติเมตร ดอกมีกลีบดอก 6 กลีบ แยกจากกันเป็นอิสระ โคนกลีบติดกับผนังด้านในของถ้วยกลีบเลี้ยง โคนกลีบดอกแคบ ส่วนปลายกลีบจะเป็นแผ่นกลม ๆ สีขาวหรือสีม่วงอมชมพูอ่อน ๆ ออกดอกในช่วงฤดูร้อนระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม เวลาดอกบานต้นทั้งต้นจะมีอยู่ 2 สี ดูสวยงามมาก
ผลตะแบก เมื่อดอกร่วงจะติดผล ผลตะแบกจะเป็นผลแห้งที่เมื่อแก่แล้วจะแห้งแตกออกเป็น 6 แฉก ถ้วยกลีบเลี้ยงจะหุ้มโคนของผลเช่นเดียวกับอินทนิลน้ำและอินทนิลบก ผลมีขนาดเล็ก ลักษณะของผลเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 0.8-1 เซนติเมตร ผลแก่เป็นสีน้ำตาล แข็ง เมื่อแก่จะแตก ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก มีปีก เมล็ดเป็นสีน้ำตาลเข้ม ผลตะแบกจะเริ่มแก่ในช่วงประมาณเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม เมล็ดจะร่วงหล่นเมื่อเปลือกผลแตกและอ้า
ขอนดอก เป็นเนื้อไม้ที่ได้จากต้นตะแบกหรือต้นพิกุลที่มีราลง เนื้อไม้จะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลเข้มประขาว มองเห็นเป็นจุดสีขาวกระจายทั่วไป ภายในผุเป็นโพรงเล็ก ๆ และมีกลิ่นหอม รสจืด ขอนดอกอาจจะเป็นเนื้อไม้ที่ได้จากต้นตะแบกหรือต้นพิกุลก็ได้ที่มีอายุมาก ๆ ยอดหักเป็นโพรง มักมีเชื้อราเข้าไปเจริญในเนื้อไม้และไม้ยืนต้นตาย เนื้อไม้จึงเหมือนไม้ผุ
สรรพคุณของตะแบก
เปลือกมีสรรพคุณเป็นยาแก้ลงแดง (เปลือก)
เปลือกใช้ปรุงเป็นยาแก้บิด และมูกเลือด (เปลือก)
ขอนดอกมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงหัวใจ บำรุงปอด บำรุงตับ บำรุงทารกครรภ์ (ขอนดอก)
ใช้เป็นยาแก้ลมกองละเอียด ได้แก่ อาการหน้ามืด ตาลาย สวิงสวาย ใจสั่น บำรุงดวงจิตให้ชุ่มชื่น (ขอนดอก)
ใช้เป็นยาแก้ไข้ร้อนเพื่อตรีโทษ แก้เหงื่อ แก้เสมหะ (ขอนดอก)
ในบัญชียาจากสมุนไพร มีปรากฏการใช้ขอนดอกในกลุ่มยารักษาอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต (แก้ลม) ซึ่งมีส่วนประกอบของขอนดอก ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ในตำรับ ได้แก่ ตำรับ "ยาหอมเทพจิตร" ที่มีสรรพคุณเป็นยาแก้ลมกองละเอียด (อาการหน้ามืด ตาลาย สวิงสวาย ใจสั่น บำรุงดวงจิตให้ชุ่มชื่น) และตำรับ "ยาหอมนวโกฐ" ที่มีสรรพคุณในการแก้ลมวิงเวียน คลื่นเหียน อาเจียน แก้ลมจุกแน่นในอก ในผู้สูงอายุ แก้ลมปลายไข้ (อาการหลังจากการฟื้นไข้แล้วยังมีอาการคลื่นเหียน วิงเวียน เบื่ออาหาร ท้องอืด อ่อนเพลีย) (ขอนดอก)
ตำราพระโอสถพระนารายณ์มีปรากฏการใช้ขอนดอกร่วมกับสมุนไพรอื่น ๆ อีก 15 ชนิด อย่างละเท่ากัน นำมาบดให้ละเอียด ทำเป็นแท่ง ใช้น้ำดอกไม้เป็นกระสายยา เมื่อจะใช้ก็ละลายน้ำซาวข้าวหรือน้ำดอกไม้ก็ได้ ใส่พิมเสนลงไปเล็กน้อย ใช้ชโลมตัวเป็นยาแก้ไข้ (ขอนดอก)
ประโยชน์ของตะแบก
ไม้ตะแบกเป็นไม้ที่มีคุณค่าชนิดหนึ่งของไทย เนื้อไม้มีลักษณะเป็นสีเทาถึงสีน้ำตาลอมเทา เสี้ยนไม้ตรงหรือเกือบตรง เนื้อไม้มีความละเอียดปานกลาง เป็นมัน แข็ง เหนียว แข็งแรง เลื่อยไสกบ ตกแต่งได้ง่าย ขัดชักเงาได้ดี จึงมีการนำมาใช้ประโยชน์กันมาก ไม่ว่าจะเป็นการนำมาใช้ทำสิ่งปลูกสร้างที่ต้องการรับน้ำหนักมาก ๆ เช่น รอด ตอ กาน เครื่องบน ไม้ปาร์เกต์ ใช้ในงานก่อสร้างอาคารบ้านเรือน เรือ แพ เกวียน แจว เครื่องมือกสิกรรม ฯลฯ ส่วนไม้ตะแบกชนิดลายจะนิยมนำมาใช้ทำเครื่องเรือน ด้ามหอก ด้ามมีด พานท้ายปืน คิวบิลเลียด ด้ามปากกา ด้ามร่ม ไม้ถือ กรอบรูปภาพ สันแปรง ไม้บุผนังที่สวยงาม มีลักษณะเหมือนไม้เสลา สามารถนำมาใช้ทดแทนกันได้ดี
นอกจากนี้เนื้อไม้ยังสามารถนำมาใช้ทำเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี คือ ถ้านำมาถ่ายเป็นถ่านและฟืนจะให้ค่าความร้อนถึง 7,524 และ 4,556 แคลอรีต่อกรัม (คำนวณจากตัวอย่างแห้ง)
หนังสือแนะนำ
ผู้แต่งเดชา ศิริภัทรพิมพลักษณ์2548หัวเรื่อง
ตะแบก -- การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์(+)
ตะแบก -- การใช้รักษา(+)hs(+) (คลิก)
แหล่งอ้างอิง
ตะแบก สรรพคุณและประโยชน์ของต้นตะแบกแดง 10 ข้อ !.// สืบค้นเมื่อ 7 กันยายน 2562./ จากhttps://medthai.com/ตะแบก