มะค่า
มะค่า
วงศ์ : Leguminosae
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Afzelia xylocarpa (Kurz) Craib. T
วีดีโอแนะนำ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้นมะค่าโมง เป็นไม้ขนาดใหญ่ แต่ไม่สูงมากนัก ลำต้นมีความสูงประมาณ 10 – 18 เมตร มีเรือนยอดเป็นพุ่มกว้าง แตกกิ่งต่ำตั้งแต่ระดับล่างของลำต้น เปลือกลำต้นมีสีน้ำตาลอ่อนอมชมพู กิ่งอ่อนมีขนปกคลุม
ใบมะค่าโมงเป็นใบประกอบ ออกเรียงสลับกันบนกิ่งแขนง ใบย่อยแต่ละใบมีรูปไข่ ฐานใบ และปลายใบมน แผ่นใบเรียบ และมีสีเขียวเข้ม แผ่นใบมีเส้นกลางใบชัดเจน ขนาดใบกว้างประมาณ 2-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 4 – 10 เซนติเมตร
ดอกมะค่าโมงออกดอกเป็นช่อบริเวณปลายกิ่ง โดยดอกจะออกประมาณเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม
ผลมะค่าโมง เรียกว่า ฝัก มีลักษณะแบนขนาดใหญ่ ฝักกว้างประมาณ 7 – 10 เซนติเมตร ยาวประมาณ 12 – 20 เซนติเมตร ฝักอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะมีสีน้ำตาล และจะปริแตกออกเป็น 2 ซีก ส่วนด้านในมีเมล็ด 2-5 เมล็ด
เมล็ดมีลักษณะกลม เปลือกเมล็ดมีสีดำ และมีเยื่อหนาสีเหลืองประแดง ซึ่งมีลักษณะคล้ายรูปฟันคน ยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร หุ้มบริเวณฐานเมล็ด จึงเรียก ฟันฤๅษี ทั้งนี้ ฝักจะแก่ประมาณเดือนมิถุนายน-สิงหาคม
ประโยชน์มะค่าโมง
1. ไม้มะค่าโมงเป็นไม้เนื้อแข็ง เนื้อไม้มีลวดลายสวยงาม เนื้อไม้สีน้ำตาลอมแดง นิยมใช้แปรรูปเป็นไม้แผ่นปูพื้น ไม้วงกบ เสาบ้าน และไม้ชายคาสำหรับก่อสร้างบ้าน และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ
2. เปลือกมะค่าโมงมีน้ำฝาด นิยมใช้สำหรับฟอกหนัง
3. ฝักอ่อนนำเนื้อเมล็ดมาต้มรับประทาน ทั้งรับประทานเป็นของคบเคี้ยว และรับประทานคู่กับอาหารอื่นๆ
4. เมล็ดแก่นำมาเผาไฟหรือคั่วรับประมาณ เนื้อเมล็ดให้รสมัน
สรรพคุณมะค่าโมง
เปลือกลำต้น (ต้มน้ำดื่ม)
– ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ
– รักษาริดสีดวง
– แก้ท้องเสีย
– รักษาโรคบิด
เปลือกลำต้น (ต้มน้ำอาบหรือใช้บดทา)
– รักษาโรคผิวหนัง
– ใช้ทารักษาแผล
เปลือกฝัก และเมล็ดมะค่าโมง (นำมาต้มน้ำดื่ม)
– สำหรับใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ
– รักษาโรคริดสีดวงทวาร
– เนื้อเมล็ดดิบหรือแก่นำมาหั่นเป็นฝอย แล้งต้มน้ำดื่ม สำหรับช่วยบรรเทาอาเจียน
– เมล็ดแก่นำมาผ่าให้เห็นเนื้อเมล็ด ก่อนใช้กดทับแผลที่ถูกแมลงกัดต่อย เพื่อบรรเทาอาการปวด และลดพิษ
แหล่งอ้างอิง
มะค่าโมง สรรพคุณ และการปลูกมะค่าโมง.//สืบค้นเมื่อ 6 กันยายน 2562 ./ จากhttps://puechkaset.com/มะค่าโมง/